GTO visit Maw Kler Kee (July 2010)
Friends from GTO
visit Maw Kler Kee
21 July 2010
Rhonda from GTO informed us that she had some friends wishing to visit our hostel children to do ministry activities with them. They came in two groups; the first group going to the adolescents at Omkoi Coffee hostel, and the second group going to the children at Maw Kler Kee Coffee Hostel. |
คุณรอนด้าจากองค์กรจีทีโอ(เชียงใหม่) แจ้งกับเราว่า มีเพื่อนต้องการมาเยี่ยมเด็กที่หอพักทั้งสองแห่งของเรา โดยจะแยกกันเป็นสอง กลุ่ม กลุ่มแรกจะไปที่หอพักอมก๋อย จะทำกิจกรรมกับเด็กโต ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง จะไปกับผมที่หอพักกาแฟมอเคล่อคี ไปทำกิจกรรมกับเด็กเล็ก |
We left Chiangmai at 9 o’clock on July 21, 2010. We stopped for lunch at Omkoi Coffee Hostel to leave the first group there. With rest stops on the way we reached the village at 7 pm. The children lined up to welcome us, looking very cute. |
เราออกเดินทางเวลาประมาณ 9 โมงของวันที่ 21 กรกฏาคม 2010 เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางมาก เราแวะทานข้าว แวะเติมน้ำมัน แวะที่หอพักกาแฟอมก๋อยเพื่อฝากเพื่อนกลุ่มนี้ไว้ที่นั่น และแวะสำหรับห้องน้ำมาเรื่อยๆ เราไปถึงที่หมู่บ้านมอเคล่อคีในเวลา ประมาณ 1 ทุ่ม เด็กๆออกมาเข้าแถวต้อนรับเราอย่างเป็นระเบียบ ช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูกระไร |
We have a few pictures of a team from GTO, led by Shaun and Brian, who conducted activities for the older children at Omkoi Coffee Hostel. |
เรามีภาพของคณะจากจีทีโอกลุ่มแรก ที่ทำกิจกรรมกับเด็กโต ที่หอพักกาแฟอมก๋อย ที่นำโดยไปรอัน กับ ชอน เพียงเล็กน้อย |
The group from GTO did not delay. After dinner they immediately started activities for the children. The children listened attentively and learned what brothers and sisters from the West could do. Bedtime for the children is 8 PM. In this village malaria requires that the children to sleep under mosquito nets. |
คณะจากจีทีโอไม่รอช้า หลังอาหารเย็นพวกเขาเริ่มกิจ กรรมที่เขาเตรียมไว้กับเด็กๆทันที่ เด็กๆเรียนรู้ และสังเกตสิ่งที่พี่ๆฝรั่งมาทำและสอนให้อย่างสนใจ เวลา 3 ทุ่มเด็กๆจึงเข้านอน ที่นี่ยังมีไข้มาลาเรียอยู่ เราจึงแนะนำให้เด็กๆและผู้มาเยือนนอนในมุ้ง |
22 July 2010
Every morning at 5.30 AM Pastor Taw Soe leads worship with the children as a Christian hostel. After Biblical teaching the children play together as children love to do. |
ทุกเช้าเวลาประมาณ 5.30 น. อาจารย์ ถ่อโซ จะนำเด็กๆนมัสการพระเจ้า ตามแบบของหอพักคริสเตียนทั่วไป หลังจากนมัสการพระเจ้า และการอมรมสั่งสอนจริยธรรม เด็กๆจับกลุ่มกันเล่น ตามประสาของเด็ก เป็นกลุ่มๆ |
Here is a scene from our balcony which stirred our imaginations. |
ภาพที่เรามองเห็นจากระเบียงหอพัก ทำให้เราจินตนาการณ์ได้มากมาย |
After breakfast the children prepare their lunch by wrapping rice for school. | หลังอาหารเช้าที่หอพัก เด็กๆต้องห่อข้าวไปโรงเรียนสำหรับอาหารกลางวัน |
The umbrellas which the Helping Hands Project purchased are now very helpful for the children. Without these umbrellas the children would not be comfortable going to school in the rainy season. | ร่มที่ Helping Hand Project ส่งมาตามที่เราแจ้งไป เป็นประโยชน์กับเด็กมาก หากไม่มีร่มเหล่านี้ เด็กๆคงจะเปียกและไม่สบายกันหลายคน |
After children leave for school we survey the hostel to determine what is needed, or what problems need to be solved. | หลังจากเด็กๆไปโรงเรียน เราเริ่มเดินสำรวจพื้นที่รอบๆหอพัก พร้อมกับคิดไปว่า หอพักมีความจำเป็นอะไรอีก หรือต้องแก้ปัญหาอะไรบ้าง |
This is our chicken pen. We have 25 chickens now, but most of them live outside the pen. Some sleep in the tree beside the chicken pen. Maybe they are naturally wild because they are not from the city. นี่คือเล้าไก่ของหอพัก ขณะนี้มีไก่อยู่ประมาณ 25 ตัว แต่ส่วนใหญ่ชอบอยู่นอกเหล้า และนอนบนต้นไม้ด้านหลังเหล้าไก่ อาจจะเป็นเพราะมีสัญชาติญาณของไก่ป่า เพราะไก่เหล่านี้ ไม่ใช่ไก่ที่เอามาจากในเมือง |
The roof above our balcony is too short, so when it rains this terrace is always wet. | สิ่งหนี่งที่สังเกตุเห็นระหว่างฝนตกก็คือ หลังคาด้านที่เป็นระเบียงสั้นเกินไป ทำให้เวลาฝนตกระเบียงด้านนี้จะเปียกฝน |
Thanks to God we finally have a dry place for the children to stay. There are no holes in the floor, rooof and no bamboo powder on the walls to make children itch. And we now have a cafeteria and an emergency water tank in case of a shortage. | ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดเด็กๆก็มีที่พักที่แห้ง พื้นไม่ทะลุ ผนังไม่มีฝุ่นจากผงไม้ไผ่ ที่ทำให้คัน มีที่โรงอาหารสำหรับรับประทานอาหาร มีแท้งน้ำสำรอง ในกรณีที่น้ำในหมู่บ้านไม่มา |
The trees that we planted on our dedication day have now grown a little. We hope these rain trees can give us good shade within 3 years | ต้นไม้ที่ปลูก ในวันพิธีมอบถวายหอพัก โตขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว คาดว่าอีกสักสองปีคงจะได้ร่มเงาจากมัน | |
This time we brought more rain trees, these coming from brother Chana. We brought lime trees and other trees to plant in hostel area. ครั้งนี้เราเอาต้นฉำฉาจที่ได้จากคุณจากเชียงใหม่มาปลูกเพิ่ม เรานำต้นมะนาวและต้นไม้ที่มีผลอื่นๆไป เพื่อปลูกในบริเวณหอพักด้วย |
This young group divided into two teams. The first group went to teach English at Maw Kler Kee School, and the other team helped us by digging a fish pond. | Now Maw Kler Kee School has two more new buildings, and housing for two more teachers. (In the past our hostel was behind that flag pole.) | |
คณะ หนุ่มสาวกลุ่มนี้แบ่งกลุ่มกันเป็น 2 กลุ่ม ส่วนหนึ่งไปสอนภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนบ้านมอเคล่อคี อีกกลุ่มหนึ่งไปช่วยขุดบ่อปลาให้หอพัก | เดียวนี้โรงเรียนมีอาคารเรียนเพิ่มขึ้นมาสองอาคาร และมีบ้านพักครู่อีก 2หลัง อดีตหอพักของเราอยู่ด้านหลังเสาธงฝั่งโน้น |
We brought boys down to the valley to see the ditch which we dug in hopes of running a hydro power generator. | เราพาคณะที่เป็นผู้ชายไปดูคูน้ำที่เราขุดเอาไว้ ที่เราคาดว่าจะใช้ปั่นไฟฟ้าให้หอพักของเราในอนาคต |
When we came back from the valley we found that all of us had “donated” some blood to leeches. We stopped the bleeding the way the villagers do, by putting a small piece of paper on the point of bleeding. (If we don’t do this the bleeding does not stop bleeding easily because leeches have a substance prevents the blood from clotting. This method seems to cause the blood to clot.) |
หลังจากที่เราลงไปในลำธาร เพื่อไปดูคูน้ำที่เราขุดไว้สำหรับ ติดตั้งเครื่องปั่นไฟพลังน้ำ ทุกคนได้บริจาคเลือดให้ทากกันทั่วหน้า หลังจากเราเอาทากออกแล้ว เราใช้วิธีแบบชาวบ้าน เพื่อหยุดเลือด คือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษที่ไม่มันแปะลงที่เลือดออก เพื่อให้เลือดหยุดไหล หากไม่ทำอย่างนี้ เลือดจะไม่หยุดง่ายๆเลย เพราะทากจะมีสารบางอย่างไม่ให้เลือดแข็งตัว เข้าใจว่าหลักการการใช้กระดาษนี้คือ ทำให้เลือดแข็งตัว จากด้านนอกที่ถูกอากาศแล้ว และค่อยๆปิดปากแผลเข้าไป |
The hostel mother told us that two weeks before in the middle of the night her 12-year old daughter had heard a sound like someone hitting the wall very hard from outside, and that the sound moved up the wall and to the roof, crossing from one side to the other. In the morning the hostel parents went to look at the point where the sound was heard and saw what appeared to be footprints step up the wall to the very top. | แม่บ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2อาทิตย์ ลูกสาวของเธอได้ยินเสียงดังมากเหมือนเสียงคนมาทุบที่กำแพงหอพักกลางดึก และเสียงดังเคลื่อนขึ้นไปถึงหลังคาและดังข้ามไปอีกฝากหนึ่ง ตอนเช้าหลังจากพ่อบ้านกับแม่บ้านทราบเรื่องจึงออกไปดู ปรากฏว่า เห็นรอยเท้าปรากฏอยู่บนฝาผนังด้านนอกของหอพักจากกลางๆของฝาผนังจนเกือบถึงหลังคา | |
The hostel mother also told us that last month she heard a baby crying in front of the hostel at night despite the fact that there is no baby in this hostel. In the morning she saw small foot prints on the front wall of the hostel close to the water tank. After a month those footprints just disappeared. |
เราได้ยินจากแม่บ้านเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน เธอได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้ด้านหน้าของหอพัก ในตอนกลางคืน ทั้งๆที่หอพักนี้ไม่มีทารกแม้แต่คนเดียว ตอนเช้าออกมาดู ปรากฏว่า เห็นรอยเท้าแบบเดียวกันนี้ ปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของหอพัก ใกล้ห้องน้ำ หลังจากนั้นประมาณ1หนึ่งเดือนรอยนั้นก็เลือนหายไปเองโดยไม่มีใครไปลบ |
While digging this fish pond we came upon tile plate waste like these periodically. We collected these waste plates and took photos. We heard from villagers that this village was ancient, once inhabited by Lawa people. It was Lawa tradition to bury their dead with bowls. We don’t know where these bowls came from, or how. They may have been made by the Lawa, or brought from somewhere else. The right bowl is one villagers found in 2008. |
การขุดบ่อปลาที่นี่ เราพบเศษถ้วยกระเบื้องดังรูปเป็นระยะๆ เราเก็บรวมเศษถ้วยเหล่านี้ด้วยกัน แล้วถ่ายภาพดังกล่าวเอาไว้ ชาวบ้านเล่าต่อๆกันว่า หมู่บ้านนี้เมื่อก่อนเป็นหมู่บ้านของชาวละว้า ชาวละว้าจะมีประเพณีฝังถ้วยกระเบื้อง และทรัพย์สินพร้อมกับผู้ตาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าถ้วยกระเบื้องเหล่านี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร เขาทำเองหรือนำมาจากที่อื่น และภาพขวาสุดคือ ถ้วยที่ค่อนข้างสมบูรณ์ที่เคยขอถ่ายกับผู้ที่ขุดได้ เมื่อหลายปี 2008 ก่อน |
Before we went to Maw Kler Kee this trip I told Pastor Taw Soe that prepare some “thank you” songs for the sponsors who are helping our mission so I can record them and put into a slide show background. The children did quite well, with musical timing and notes well performed. |
|||||
ก่อนที่เราจะมา เราบอกอาจารย์ถ่อโซไว้ก่อนว่า ให้เตรียมเพลงที่กล่าวถึงการขอบคุณ เราจะบันทึกเสียง แล้วทำเป็นสไลด์เพลง เป็นการขอบคุณผู้ที่สนับสนุนพันธกิจของเรา เด็กๆทำได้ดีมาก จังหวะดี เสียงไม่เพี้ยนสักคนเลย |
We brought some school supplies which were given by Teajon Christian International School (South Korea) sent to us after arranged by Mr. Brian Lavender. We divided them between the two hostels. The first portion included more pencils because there are more primary school students at Maw Kler Kee Hostel, and the second portion we was more pens because most students at Om Koi are middle & high school students. We bought some medications for the hostels to keep. Sometimes Maw Kler Kee villagers and others ask for medicine at our hostels so this is one of our missions, naturally. |
เรานำอุปกรณ์การเรียนจาก Teajon Christian International School (South Korea) โดย คุณไบรอัน ลาเวนเดอร์ ส่งมาให้เรา เราแยกของฝากนี้แยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งมอบให้หอพักมอเคล่อคี และอีกส่วนหนึ่งนำกลับไปให้หอพักอมก๋อย หอพักอมก๋อยมีเด็กมัธยมมากกว่าเราจึงแบ่งปากกาไปให้ทางอมก๋อยมากว่า และที่นี่มีเด็กประถมมากกว่าจึงแบ่งดินสอให้ทางนี้มากกว่า เราซื้อยาที่จำเป็นบางอย่างมาสำรองไว้ ที่หอพักยามฉุกเฉิน ที่หอพักกาแฟมอเคล่อคี ชาวบ้านในหมู่บ้านหรือจากหมู่บ้านอื่น มักจะมาขอยาจากพ่อบ้านของเรา จึงกลายเป็นพันธกิจอีกอย่างหนึ่งของหอพักโดยปริยาย |
Thanks to these young people from GTO for their kindness. Although they don’t speak the same language, whenever they had free time they played with the children. We saw many smiles from the children and heard much laughter when they were together. |
ขอบคุณเพื่อนๆหนุ่มสาวกลุ่มนี้ ที่มีจิตใจเมตตากับเด็กๆที่หอพัก ทั้งๆที่คุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อใดที่มีเวลาว่าง พวกเขาก็ยินดีจะมาเล่นกับเด็กๆเสมอ เราเห็นรอยยิ้ม และได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กๆอยู่ตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน |
Every mealtime we hear the children sing, “Thank God for the food.” Older children serve the food for the younger ones. |
เมื่อถึงเวลาหาร เราจะได้ยินเสียงเพลง “ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหาร” ทุกๆมื้อ ตามระเบียบหอพัก เด็กโตจะเป็นผู้ตักอาหารให้เด็กเล็ก |
At Maw Kler Kee we can buy wood planks at a reasonable price, so we can make simple tables and seats for our cafeteria. |
ที่หอพักมอเคล่อคี เรายังพอสามารถหาซื้อไม้ได้ ในราคาที่เป็นธรรม เราจึงมีโต๊ะอาหารให้เด็กๆได้รับประทานกันอย่างเป็นระเบียบ |
After lunch elder brothers and sisters from America have games for the children. |
หลังอาหารกลางวัน พี่ๆฝรั่งยังคงมีเกมส์กลางแจ้งให้เด็กๆได้เล่นกัน |
After the sunset the children come back to the hostel and play in their groups. | หลังพระอาทิตย์ตกดิน เด็กๆกลับขึ้นมาบนหอพัก จับกลุ่มเล่นกันเล่นกันเป็นกลุ่มๆ |
At our hostel, in addition to spiritual teaching, we also teach their native Karen language to the children because the school teaches only Thai language. To have a hostel in a Karen village like this helps the children to use their own language, to dress according to their own culture, proudly. If the young children go to school in the city they don’t have a good chance to wear their own dress as some children are ashamed to wear their tribal dress and also ashamed to speak their own language around others. We want to change this attitude of racial embarrassment. We believe we should preserve the differences because the world is more beautiful with the diversity. | ที่หอพักนอกจากจะสอนจริยธรรมแล้ว ยังสอนภาษากะเหรียงให้เด็กๆ เพื่อเด็กๆจะได้ไม่ลืม ภาษาดั้งเดิมของตน เพราะการเรียนการสอนที่โรงเรียนล้วนแต่ใช้ภาษาไทย การมีหอพักในหมู่บ้านลักษณะนี้ มีข้อดีที่เด็กๆยังได้ใช้ภาษาของตน ยังได้แต่งชุดประจำเผ่าของตน อย่างภาคภูมิใจ แต่หากต้องไปเรียนในเมืองตั้งแต่เด็ก นอกจากจะไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดประจำเผ่า ของตนเป็นต้นแล้ว บางครั้งยังเกิดความกระดากอาย ที่จะต้องสวมใส่เสื้อผ้าประจำเผ่า และพูดภาษาของตนด้วย เพราะจะถูกคนรอบข้างมองด้วยสายตาแปลกๆ เราต้องการให้เด็กๆรุ่นใหม่เปลี่ยนทัศนคติเก่าๆนี้เสียใหม่ว่า ไม่ควรอายเชื้อชาติ ของตน เพราะนี่เป็นความหลากหลายที่พระเจ้าสร้างไว้ เราต้องอนุรักษ์ความหลากหลายเหล่านี้ไว้ เพราะโลกสวยงาม เพราะว่ามีหลากหลาย |
We knew that these young people were tired from a whole day’s activity, but when they had opportunity to be with the children, they still played with them. This was a good experience for these children, to play with foreign brothers and sisters without any travel expenses to go to see them. | คณะหนุ่มสาวเหล่านี้ เรารู้ว่าเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แต่พอมีโอกาสได้อยู่กับเด็กๆแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่า เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนอีก เป็นประสบการณ์ที่ดีของเด็กๆเหล่านี้ ที่ได้เล่นกับพี่ๆชาวต่างชาติ โดยที่ไม่ต้องค่าเดินทางและเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย |
23 July 2010
Next morning the team from GTO went to teach English at school again. Thanks to teachers at Maw Kler Kee School for allowing our friends to teach the whole day. We let these foreign teachers communicate with the children naturally as much as they possible. | วันรุ่งขึ้น คณะจากจีทีโอไปสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเหมือนเคย ขอขอบคุณ คุณครูที่โรงเรียนบ้านมอเคล่อคี ที่อนุญาตให้เจ้าของภาษาเหล่านี้ได้ไปสอนภาษาอังกฤษกับเด็กๆ เราปล่อยให้เด็กๆ กับครูต่างชาติเหล่านี้ได้สื่อสารกันเอง โดยแปลให้เท่าที่จำเป็น |
This trip we brought bags of young plants for hostel. This evening we worked with children to put soil in the plant bags for the young coffee plant we had prepared. The children can then remember how this is done for working at their villages in the future. They might become our coffee team(for environment) members someday. This is another vision of our coffee hostel projects. | การไปทริปนี้เรานำถุงเพาะกล้ากาแฟไปด้วย เย็นนี้ เราจึงรวมพลังกันกับเด็กๆ เอาดินใส่ถูงเพื่อจะเพาะกล้ากาแฟ การได้ลงมือปฏิบัติจริงอย่างนี้ ทำให้เด็กๆได้เรียนรู้ และสามารถกลับไปปฏิบัติจริงในหมู่บ้านของตนได้ ครอบครัวของเด็กๆเหล่านี้ หรือเด็กเหล่านี้เอง อาจจะกลายเป็นสมาชิกผู้ปลูกกาแฟ (เพื่อสิ่แวดล้อม) ร่วมกับเราได้ในอนาคต |
In this hostel the older girls practice traditional weaving when they are free from their routine work. We are considering starting a weaving project for women and girls in this village to weave Karen bags for using in shopping. This could generate income, and also reduce plastic bag use and non-biodegradable garbage. | เด็กโตที่นี่ ได้รับการถ่ายทอดเรื่องการทอผ้า เมื่อว่างจากการเรียนและภารกิจแล้ว จะมานั่งทอผ้า เรากำลังคิดว่าจะให้แม่บ้านและน้องๆเหล่านี้ ทอกระเป๋าย่ามจ่ายตลาด ออกมาขายในอนาคตเพื่อเป็นรายได้ให้กับผู้ทอ และเพื่อเป็นการลด การใช้ถุงพลาสติก เป็นการช่วยลดขยะที่สลายยากในตัวด้วย |
This evening the team had some skits for children. At bedtime the team says goodbye to the children because in the morning the children might leave for school before the team departs for Chiangmai. |
เย็นนี้พี่ๆมีการแสดงให้น้องๆได้ดูกัน สอนเพลงให้เด็กๆ เมื่อถึงเวลานนอน เราถือโอกาสนี้ในการอำลาน้องๆ เพราะ วันรุ่งขึ้นเด็กก็ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า และพี่ๆก็ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับ |
24 July 2010
The whole night I could not sleep because of a sound disturbing my sleep. I tried to locate the source of the noise with my flashlight but could not see anything to explain it. It was like the sound actually came into my mosquito net. The sound was like knocking on wood, timed about like a heartbeat. When I was almost sleep, this sound came very close to me. I came out from my mosquito net and looked around but did not see anything, and the sound moved away. This happened about 7 times. Finally I recorded that sound with my camera. In the morning I asked the hostel father if he had heard a sound like that before, but he said he had not. Then I asked Grandpa Kuh Lah Pah because he is an older people in that area, and he said that it might be because of the hostel’s location. | ตลอดคืนผู้เขียนเองนอนไม่หลับ เพราะว่ามีเสียงที่หาตัวไม่เจอมา รบกวนการนอน ผู้เขียนพยายามส่องดูด้วยไฟฉาย เพื่อหาตัวกำเนิดเสียง แต่ไม่สามารถหาตัวเจอ ทั้งๆที่เหมือนกับเสียงจะเข้ามาในมุ้งอยู่แล้ว จริงๆแล้วเสียงคล้ายๆแมลงหรือเสียงเคาะไม้ แต่จังหวะเสียงดังคล้ายจังหวะการเต้นของหัวใจ พอจะหลับเสียงนั้นก็มา ก็เลยออกมาจากมุ้งเพื่อหาตัวมัน แต่ก็ไม่เห็นตัว และเมื่อผมเรี่มหาตัวมัน เสียงจะค่อยๆห่างออกไป เป็นอย่างนี้ประมาณ 7 ครั้ง ในที่สุดผู้เขียนจึงใช้กล้องบันทึกเสียงนี้ไว้ วันรุ่งขึ้นนำเสียงที่บันทึกไว้ให้อาจารย์ถ่อโซ (พ่อบ้าน)ฟังดู อ.ถ่อโซบอกว่าไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน จึงลองเอาไปให้ผู้เฒ่า ขื่อหล่าป่า ในฐานะที่เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่แถบนี้มานาน แต่ผู้เฒ่าขื่อหล่าป่า กลับบอกว่าไม่เคยได้ยิน และบอกกับผมว่า อาจจะเป็นเพราะสถานที่ตรงนี้แหละ |
This kind of perturbation might cause the children to be afraid. I told the hostel parents’ son to make a cross, as a symbol of Jesus Christ whom we trust as the Son of God who created every thing, to let these invisible things know that this hostel and these children belong to God. Evil has no right to harm them. We made this simple cross and put in front of the hostel, and then we prayed for this hostel again, leaving it in the hand of God. | การ ก่อกวนลักษณนี้ อาจจะทำให้เด็กเสียขวัญได้ ผู้เขียนจึงขอให้ลูกชายอาจารย์ถ่อโซ เอาไม้มาทำเป็นไม้กางเขน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระเยซูคริสต์ ที่เราเชื่อว่า เป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง, สรรพสัตย์ เพื่อย้ำให้สิ่งที่เราไม่เห็นเหล่านี้รู้ว่า หอพักหลังนี้และเด็กๆที่อยู่ในหอพักหลังนี้เป็นของพระเจ้า สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่มีสิทธิมาท้ำร้ายพวกเขา เราเอาไม้กางเขนไม้ ที่เราทำขึ้นแบบง่ายๆนั้น ขึ้นไปติดด้านหน้าผนังหอพัก จากนั้น เราอธิฐานเผื่อหอพักนี้ร่วมกันอีกครั้ง เพื่อฝากหอพักนี้ภายใต้พระหัตถ์ของพระเจ้า | |
We have heard of this kind of thing happening in other villages, and when villagers put the cross in their house’s area the evil stopped disturbing them. | เรา เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน และเมื่อชาวบ้านเอาไม้กางเขนมาติดตั้งตามบริเวณบ้าน วิญญาณชั่วทั้งหลายก็ไม่หยุดรบ กวนชาวบ้าน สิ่งนี้ดูเหมือนเข้าใจยาก แต่ชาวบ้านเป็นผู้เล่าให้ฟังเอง |
We just thought that the time of year for this trip would be dry, and rain would be no problem. But it started to rain the first night we arrived and rained every day, especially the evening and night of July 23. After we put the cross in front of the hostel, we departed Maw Kler Kee in the rain. Our truck got stuck just at the entrance of the hostel, and we had to wait until villagers came and pushed us. Villagers told us that we should not go because the road was very slippery. Actually it seemed wise to wait but the young people from GTO had to travel by plane the next day, so we were forced to start for Chiangmai. While we were on the way we saw many landslides where the soil could not hold the water. At most of the turns at the edge of each mountain there were grooves made by the water. One of them was quite deep and very soft. If we drove slowly we might get stuck in the mud. We had only three men in our truck, so if we stuck in this groove we might not get out. I decided to drive by force, but when the front wheel bounced out of the rut the truck hit the mountainside. Thanks to God we finally got out of the woods safely. I asked the fellow travelers to get good pictures but they were too excited. |
การมาของเรามาคราวนี้ เราลืมตรวจดูพยากรณ์อากาศ เพราะเราคิดว่าปีนี้ฝนคงจะแล้งหรือคงจะยังไม่ตก คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ฝนเริ่มตกตั้งแต่คืนแรกที่เราไปถึง และตกทุกวัน โดยเฉพาะตั้งแต่เย็นวันที่ 23 จนถึงวันรุ่งขึ้นฝนตกหนักมาก หลังจากเราติดไม้กางเขนเสร็จ เราก็ออกเดินทางท่ามกลางฝน รถเราเริ่มติดครั้งแรกที่ปากทางหอพัก เราต้องรอให้ชาวบ้านมาช่วยเข็นให้เรา ชาวบ้านบอกเราว่าอย่างเพิ่งกลับเลยถนนลื่นมาก จริงๆแล้วผมเองก็ไม่อยากกลับ เพราะรู้ว่าถนนลื่นมาก แต่เพื่อนเหล่านี้จำเป็นต้องเดินทาง กลับด้วยเครื่องบินในวันรุ่งขึ้น จึงต้องฝืนออกไป ขณะที่ขับออกมาเราเห็นดินกำลังเริ่มสไลด์ลงมาหลายจุด เพราะได้รับน้ำมากจนอิ่มตัว ขณะเดียวกันตามทางโค้งต่างๆระหว่างรอยต่อของ ภูเขาแต่ละลูก เริ่มถูกน้ำกัดเซาะจนเริ่มเป็นร่องน้ำ มีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นร่องค่อนข้างลึกและดินอ่อนมาก หากเราค่อยๆไปมีโอกาสที่รถจะติดโคลนสูงมาก เราดูจำนวนคน ที่จะเข็ญรถก็มีเพียงผู้ชายสามคน คงไม่สามารถที่จะเข็ญออกจากโคลนได้ จึงตัดสินใจขับด้วยแรงส่ง แต่หลังจากล้อหน้าพ้นออกจากร่องน้ำด้วยแรงส่ง ล้อหน้าทั้งคู่จึงลอยขึ้นและทำให้ทิศทางเปลี่ยนอย่างกะทันหัน หน้ารถด้านขวาของเราจึ่งหันเข้าไปกระแทกหน้าผาข้างทาง เพราะระยะประชิดมาก แต่ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดเราก็สามารถออกมาจากเส้นทางที่แสนลื่นนั้นได้ อย่างปลอดภัย เมื่อเราออกมาได้แล้วผมถามเพื่อนที่ไปด้วยกันว่า ใครเก็บภาพเด็ดๆได้บ้าง ปรากฏว่าไม่มีใครเก็บภาพเลย เพราะตื่นเต้นมากและขณะเดียวกันต้องจับที่ยึดเอาไว้ไม่ให้ตัวไหลไปไหลมาอยู่ตลอดเวลา |
|
Later I learned that after that trip the truck could not travel again on this road until October. | เราได้ข่าวภายหลังว่า หลังจากการไปครั้งนี้ของเราแล้ว ถนนเส้นนี้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้จนถึงสินเดือนตุลาคม |
Thanks to Dr. Roger Butz for his translation
Jungle Joe |