Paw Lae was born in 1959, in Kaw Hsaw Gey village, Lu Plae Town, Burma. He graduated grade four, then worked in raising cattle. He helped his parents for three years, then seeking employment he came across to Thailand. After three years working away, he set out to visit his home town. On the way he was invited to be a soldier in 7th Brigade, KNU. He was a soldier for three years and then returned to Thailand. He worked as a laborer, and married a woman at Sho Kee village. He became addicted to drugs and forgot his responsibilities to his family. Paw Lae was very generous with friends. He was well known in palm reading, and many people wanted PawLae to predict their lives or future events from lines on their palm. |
|
นายป่อแหล่เกิดเมื่อ ค.ศ. 1959 ในหมู่บ้านฉ่วยเหจ่นประเทศพม่า หลังจากที่เขาเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 เขาออกมาช่วยงานครอบครัวด้านการเลี้ยงวัวเป็นเวลา 3 ปี จากนั้นข้ามมาหางานทำในฝั่งประเทศไทย เขาทำงานในฝั่งไทย 3 ปี แล้วกลับไปเยี่ยมหมู่บ้านของเขา ขณะที่เขากลับไปเยี่ยมหมู่บ้าน เขาถูกชักชวนให้เข้าไปเป็นทหาร ของสหภาพกะเหรี่ยง เขาเข้าไปช่วยสห ภาพกะเหรี่ยง 3 ปี จากนั้นเขาลาออกจากทหารแล้วกมารับจ้างทำงานในฝั่งไทยไทยต่อ เขาพบรักและมีครอบครัวที่หมู่บ้านโชว คี หลังจากแต่งงานไม่นานเขากลายเป็นคนติดฝิ่น และกลายเป็นผู้ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ต่อความครอบ แต่นายป่อแหล่กลับใจกว้างกับเพื่อนฝูงมาก เขาเป็นที่รู้จักของชาวบ้าน ในละแวกนั้นด้านการดูลายมือ และชาวบ้านใกล้ไกลต่างต้องการให้ ป่อแหล่ช่วยดูลายมือเพื่อทำนายอนาคตให้ |
After they had three children, his wife became very sick. Seeking help, she discarded her old beliefs and welcomed Jesus. Sadly, she died before baptism. Their children went to grow up with their grandpa and grandma, for Paw Lae was a slave of drugs. When his daughter was 15 years old he actually became demented for one day and a night because of excessive drinking. |
|
หลังจากนายป่อแหล่มีลูกคนที่สาม ภรรยาเขาป่วยมาก เธอละทิ้งความเชื่อเดิม และรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ แต่เป็นที่น่าเศร้าและน่าเสียใจ ที่เธออายุสั้นก่อนที่จะได้รับบัพติสมา ลูกๆของนายป่อแหล่จึงต้องไปเติบโต ภายใต้การดูแลของตากับยาย เพราะนายป่อแหล่ กลายเป็นทาสของสิ่งเสพติด เมื่อลูกสาวอายุได้ 15 ปี เขามีอาการบ้าคลั่งอยู่หนึ่งวัน เพราะเขาดื่มสุรามากเกินไป
|
Between 2000 and 2010 he sometimes visited his parents. His parents were spirit worshipers. They intended to conduct a ceremony to the spirits for him. Because he drank so much, he would fight with his brothers. He returned to Thai side before the spiritist ceremony could take place, and he came to Pastor Taw Soe. We hired him to carry wood for our Maw Kler Kee Hostel. In the season of rice farming, the Maw Kler Kee village head hired him to work in his rice farm. When the season ended, he returned to his village, and because he had earned money while working he began drinking alcohol heavily again. Soon he began to be disturbed by evil spirits. |
|
ในช่วงปี 2000 และ 2010 ป่อแหล่กลับไปเยี่ยมบ้าน พ่อกับแม่ของเขาซึ่งอยู่ในความเชื่อนับถือผี และตั้งใจจะทำพิธี ทางไสยศาสตร์ให้ป่อแหล่ แต่เนื่องจากเขาดื่มสุรามากเกินไป จึงมีปากเสียงกับพี่ชาย เขาจึงออกจากพิธีกรรม และกลับมายังฝั่งไทย เขากลับมาหาอาจารย์ถ่อโซ และเราจ้างเขาให้ช่วยงานขณะที่เรากำลังสร้างอาคารหอพักกาแฟมอเคล่อคี และเมื่อถึงฤดูเกี่ยวข้าวผู้ใหญ่บ้านจ้างเขาให้เกี่ยวข้าว หลังฤดูเก็บเกี่ยวเขากลับไปยังหมู่บ้านของตน และเนื่องจากเขามีเงินจากการทำงาน เขาจึงดื่มสุรามากอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาเริ่มถูกรบกวนโดยวิญญาณสกปรกอีกครั้ง
|
On the evening of 7 August 2010 he went to see Pastor Taw Soe, at the Maw Kler Kee Coffee Hostel. He was filled with fear, and was carrying a knife because he could see and hear spirits coming to him. Before he went to bed he tried to attack the spirits he could see around him, and he could not sleep the whole night. |
|
เย็นวันที่ 7 สิงหาคม 2010 เขาไปหาอาจารย์ถ่อโซที่หอพักกาแฟมอเคล่อคี เขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และถือมีดอยู่ตลอดเวลา เพราะเขายังคงได้ยิน และเห็นผีเหล่านั้นมาหาเขาอยู่ แม้แต่ก่อนนอน เขาพยายามที่จะฟันผีที่มาอยู่รอบๆเขา และตลอดคืนเขาไม่สามารถนอนหลับได้ |
Very early on August 8, he saw an army of those spirits that his parents respect come to him and surround our hostel, telling him that they would kill him because he did not follow the spiritism beliefs of his parents. He held his knife up and chased the things he saw, trying to stab them. But when he saw villagers or children he hid his knife because he didn’t want the villagers and children to be fearful of him. |
|
เช้าตรู่วันที่ 8 สิงหาคม เขาเห็นวิญญาณทหารเหล่านั้นที่พ่อแม่ของเขานับถือ มายืนล้อมรอบหอพักของเรา และทหารผีเหล่านั้นบอกกับป่อแหล่ว่า จะฆ่าเขา เพราะเขาไม่เคารพสิ่งที่พ่อและแม่ของเขานับถือ ป่อแหล่เอามีดของเขาออกมา และไล่แทงวิญ ญาณเหล่านั้น แต่เมื่อเขาเห็นชาวบ้านหรือเด็กๆในหอพัก เขาจะเก็บมีดของเขาไว้ เพราะเขาไม่อยากให้ชาวบ้าน และเด็กๆเกิดความหวาดกลัวขึ้น
|
He asked Pastor Taw Soe to take a photo of what he was seeing with a camera, but Pastor Taw Soe did not see the spirits. He told the village head what he was seeing, and the village head advised him that he must make a sacrifice to the spirits, or become a Christian so he would recover from this problem. The village head was concerned that children in the hostel might be fearful with what was happening if Paw Lae lived in the hostel. So the village head told Pastor Taw Soe to send him to the village so the witch doctor could do a spiritist ceremony for him. Pastor Taw Soe took him to the village, but on the way to the village Paw Lae told Pastor Taw Soe that he wanted to stay at a certain wooden house so he would be safe. They asked permission of Lwae Ja Pah, the owner. Then Pastor Taw Soe went back to the hostel. |
|
เขาบอกให้อ.ถ่อโซ ให้ถ่ายรูปสิ่งต่างๆที่เขาเห็น ด้วยกล้องถ่ายรูป แต่อ.ถ่อโซมองไม่เห็นวิญญาณเหล่านั้น ป่อแหล่บอกสิ่งที่เขาเห็นกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านจึงแนะนำป่อแหล่ ให้ไปทำพิธีับรรพบุรุษ(พิธีทางผี) โดยการเซ่นไหว้ วิญญาณเหล่านั้น หรือให้ไปนับถือศาสนาคริสต์ ปัญหาเหล่านี้ของเขาถึงจะหมดลงได้ ผู้ใหญ่บ้านกังวลว่า เด็กๆในหอพักอาจจะเกิดการหวาดกลัว หากป่อแหล่ยังคงมีอาการแบบนี้ และยังอยู่ในหอพักนักเรียน ผู้ใหญ่บ้านเก่แฮจึงบอกกับอ.ถ่อโซ ให้พาป่อแหล่ไปหาหมอผี ในหมู่บ้าน เพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ ระหว่างที่เขากำลังเดินไปในหมู่บ้าน ป่อแหล่บอกอ.ถ่อโซ ว่าเขาอยากไปอยู่บ้านไม้ของแหลว่ จาป่า อ.ถ่อโซจึงส่งเขาเพียงเท่านั้
|
In the morning of August 9, Paw Lae asked Lwae Ja Pah (host) to bring him to Pastor Taw Soe to ask 100 baht for paying for the ceremony by a witch doctor. The witch doctor did the ceremony for him, and bound a thread on his neck. In the evening he visited another house in the village. There he saw thirty people(spirit) surrounding him so he climbed the wall, and jumping to the ground he ran into the jungle. While he was in the jungle he saw three people still chasing him. He ran until he was too tired and out of strength. He decided to ignore death so he called those three people to come, but they had disappeared. By then it was dark and he could not see the way. As he tried to find the way he saw other ghosts several times. Because it was too dark and he could not see the way, he decided to sleep in the jungle. He promptly slept because he had been sleepless for many days. The next morning he found the way to Maw Kler Kee Hostel and decided that even if he died he would surrender and give himself to God. |
|
เช้าวันที่ 9 สิงหาคม ป่อแหล่บอกแหลว่จาป่าให้ไปส่งเขาไปหาอ.ถ่อโซ เพื่อขอเงิน 100 บาท สำหรับทำพิธีกับหมอผี หมอผีทำพิธีให้ป่อแหล่ โดยมีการผูกด้ายให้ที่คอของเขา ช่วงเย็นป่อแหล่ไปเยี่ยมคนรู้จักที่บ้านหลังหนึ่ง พอเขาเข้าไปในบ้านหลังนั้น เขาพบกับชายสามสิบคน(วิญญาณ) มาล้อมเขาไว้ เขาจึงปีนกำแพงบ้านนั้นแล้วกระโดดลงสู่พื้นดิน แล้ววิ่งหนีเขาป่าไป ขณะที่เขาวิ่งหนีอยู่ในป่า เขายังคงเห็นคนสามคนติดตามเขาไป ป่อแหล่วิ่งหนีจนกระทั่งเขาหมดแรง ในที่สุดเขาตัดสินใจว่าจะสู้ตาย เขาจึงท้าทายสามคนนั้นให้เข้ามาหาเขา แต่สามคนนั้นกลับหายตัวไป เวลานั้นก็มืดมาก เขาไม่สามารถมองเห็นหนทาง แต่ยังมีผีหลากหลายรูปแบบ มาปรากฏตัวให้เห็น เนื่องจากมืดเกินไปที่จะเห็นทางแล้ว ป่อแหล่จึงตัวสินใจนอนในป่าในคืนนั้น วันรุ่งขึ้น เขากลับมายังหอพักกาแฟมอเคล่อคี และมาบอกกับอ.ถ่อโซ ว่าเขาจะขอยอมแพ้และจะขอมอบชีวิตให้กับพระเจ้า ถึงแม้จะตาย เขาก็ยอม
|
At 3 pm of August 10, Paw Lae came to Pastor Taw Soe and asked Pastor Taw Soe to place him in God’s hand. |
|
บ่ายสามโมง วันที่ 10 สิงหาคม ป่อแหล่มาหาอ.ถ่อโซ และขอให้อ.ถ่อโซ ฝากชีวิตเขาไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าด้วย
|
Pastor Taw Soe : Do you believe that God can heal you? |
|
อ. ถ่อโซ : คุณเชื่อไหมว่าพระเจ้าสามารถรักษาคุณได้
|
Paw Lae : I saw many people who came to God escape from this problem, so I trust that God can heal me |
|
ป่อแหล่ : ผมเห็นหลายคนมาหาพระเจ้าแล้ว สามารถหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้ ผมจึงเชื่อว่าพระเจ้าช่วยรักษาผมได้ |
Pastor Taw Soe : If you don’t really trust Him, you won’t be healed. But if you believe Him, God will manage everything for your life. |
|
อ. ถ่อโซ : ถ้าคุณไม่มีความเชื่อในพระเจ้า คุณจะไม่หาย แต่ถ้าคุณมีความเชื่อ พระเจ้าสามารถจัดการทุกสิ่งในชีวิตให้คุณได้ |
Paw Lae : I can see that if I don’t give my life to God I will die. If I follow the witch doctor’s way, I have to pay plenty and I have no hope in that way either. |
|
ป่อแหล่ : ถ้าผมไม่มอบชีวิตให้พระเจ้า ผมคงจะต้องตาย และถ้าผมต้องไปหาหมอผี ผมคงจะต้องมีค่าใช้จ่ายมาก และผมไม่มีความหวังในทางนั้นด้วย |
Pastor Taw Soe : Evil reqauires your assets to heal you. If you cannot afford the price, then I can’t say. But the one and only God we worship owns the world and everything in it. Our God never needs your assets or property. God wants only that we believe that He is the one and only true God and that we belong to Him. Give Him your life and your soul, which is filled with sin, then you will be saved and you will escape from evil. Go back to Him and you will become a witness to what God has done for you. Your testimony will be for people who don’t know what God can do for them. If you decide that you will worship God, even if it costs your life, then go and take a bath and I will offer you to God’s hand. |
|
อ. ถ่อโซ : มารซาตานต้องการทรัพย์สินของคุณในการรักษาคุณ หากคุณไม่สามารถจ่ายได้ ผมก็ไม่สามารถตอบคุณได้่ว่าจะเป็นอย่างไร แต่พระเจ้าที่เรานับถือเป็นเจ้าของโลกใบนี้ และทุกๆสิ่งในโลกใบนี้ พระเจ้าของเราไม่เคยต้องการทรัพย์สินใดใดของคุณ พระเจ้าต้องการเพียง ให้เราเชื่อในพระเจ้าที่เที่ยงแท้แต่เพียงพระองค์เดียว และเชื่อว่าชีวิตเราเป็นของพระองค์ มอบชีวิตและวิญญาณที่เด็มไปด้วยความบาป ให้พระองค์ แล้วคุณจะปลอดภัย และรอดจากเงื้อมมือของซาตานเหล่านั้น กลับมาหาพระองค์และเป็นพยานชีวิตว่าพระองค์ช่วยคุณอย่างไร จะช่วยให้ผู้อื่นรู้ว่าพระเจ้าสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างไร ถ้าคุณตัดสินใจจะที่จะยอมรับพระเจ้า และเป็นหนทางที่คุ้มค้า สำหรับชีวิตของคุณแล้ว ไปอาบน้ำ้ำ แล้วผมจะขอให้พระเจ้ารับคุณไว้ภายในประหัตถ์ของพระองค์ฺ |
Ater Paw Lae took a bath, Pastor Taw Soe gave him a Bible and removed the threads which the witch doctor had bound on Paw Lae’s neck. Pastor Taw Soe said, “In the past, while you were in fear, your weapons were knife, sword and threats that witch doctor bound for you. Now leave all of your defensive equipment and take this new weapon I will be giving to you. This is Bible. Read it; take it with you. I trust that this Bible can give you mental stability and confidence.” Then Pastor Taw Soe prayed for him, gave him a Bible and seized Paw Lae’s weapon. That night Pastor Taw Soe observed that Paw Lae could fall asleep easily in a short time. |
|
หลังจากที่ป่อแหล่อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว อ. ถ่อโซ มอบพระคัมภีร์ไบเบิลให้ แล้วจัดการเอาด้ายที่หมอผีผูกไว้ที่คอของเขาออก อ. ถ่อโซ กล่าวกับป่อแหล่ว่า ที่ผ่านมาเมื่อคุณอยู่ในความกลัวอาวุธของคุณคือมีด, ดาบ และด้ายที่หมอผีผูกให้ ต่อจากนี้ไปละทิ้งอาวุธและเครื่องป้องกันตัวเหล่านั้น แล้วรับเอาอาวุธใหม่ ที่ผมจะให้คุณนี้ นี่คือพระคัมภีร์ นำติดตัวไว้ ผมเชื่อว่าพระคัมภีร์เล่มนี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นคง ทางด้านจิตใจ และมีความมั่นใจในตัวเอง จากนั้นอ. ถ่อโซ อธิฐานเผื่อป่อแหล่ื มอบพระคัมภีร์เพื่อเป็นอาวุธป้องกันตัว คืนนั้น อ.ถ่อโซ สังเกตุเห็นว่าป่อแหล่ นอนหลับได้โดยอย่างง่ายดาย ในเวลาอันสั้น |
On the morning of August 11, Paw Lae saw a giant who was going to catch him, and he heard the giant say that he would cut off Paw Lae’s head. At that time Pastor Taw Soe came out of the house. So Paw Lae told the giant that Pastor Taw Soe would come and catch him. When the giant saw Pastor Taw Soe he moved backward, and he was never seen again. Paw Lae still heard the voice of spirits, “Paw Lae is already worshiping God. Now we cannot defeat him anymore,” and the spirits persuaded each other to go back. Paw Lae heard again from the spirit chief that, “If Paw Lae’s head is not cut off, I won’t go back. I will wait until his master (Taw Soe) forgets him.” All that day Paw Lae stayed with Pastor Taw Soe. |
|
เช้าวันที่ 11 สิงหาคม ป่อแหล่เห็นยักษ์ที่กำลังจะมาจับเขา และได้ยินยักษ์พูดว่าจะตัดหัวป่อแหล่ ขณะนั้นอ.ถ่อโซ ออกมาจากบ้านพอดี ป่อแหล่จึงบอกกับยักษ์ว่า “อ. ถ่อโซ จะมาจับเจ้า” เมื่อยักษ์เห็นอ.ถ่อโซ ยักษจึงถอยออกไป และป่อแหล่ก็ไม่เห็นยักษตนนั้นอีก ป่อแหล่ยังคงได้ยินเสียง ของวิญญาณเหล่านั้นพูดกันว่า ป่อแหล่เชื่อและอธิฐานต่อพระเจ้าแล้ว จากนี้ไปเราไม่สามารถเอาชนะเขาได้อีกแล้ว และวิญญาณเหล่านั้น ชักชวนกันกลับ ป่อแหล่ได้ยินจากหัวหน้าของวิญญาณกลุ่มนี้อีกว่า ถ้าเขาไม่สามารถเด็ดหัวของป่อแหล่ได้ เขาจะไม่กลับ เราจะรอจนกว่าอาจารย์ของเขาปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง วันนั้นทั้งวันป่อแหล่ อยู่ใกล้กับอ.ถ่อโซ อยู่ตลอดเวลา |
Later that day Pastor Taw Soe had to go to the peak of a mountain to make mobile phone connection to me (Joe). At that time Paw Lae heard the spirits say, “This is the best time to get him.” So Paw Lae told Taw Soe, “If you go to talk with Joe I will follow you.” And he said, “Tell your friends to help me with prayer, because I believe that many prayers can help me.” After Paw Lae heard Pastor Taw Soe talk with me, and I encouraged Paw Lae a bit, Pastor Taw Soe said it seems he received encouragement. After that what Paw Lae heard was, “Now Paw Lae wears God’s shirt; we cannot get him anymore. He carries God’s word so we cannot defeat him.” All the spirits persuaded each other to go back. After Paw Lae read the Bible and received strength, then he allowed Pastor Taw Soe to separate from him. |
|
หลังจากวันนั้น อ.ถ่อโซ ต้องขึ้นไปที่ยอดเขา เพื่อใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาผู้เขียน(โจ) เวลานั้นป่อแหล่ได้ยินวิญญาณเหล่านั้นพูดกันว่า “นี่เป็นเวลาที่ดีที่จะจัดการกับป่อแหล่” ป่อแหล่จึงบอกกับอ.ถ่อโซว่า “ถ้าคุณไปโทรศัพท์หาเพื่อนของคุณเขาจะตามไปด้วย” และป่อแหล่บอกอ.ถ่อโซอีกว่า “ขอให้เพื่อนของคุณอธิฐานเผื่อผมด้วย เพราะผมเชื่อว่า หลายๆคำอธิฐานสามารถช่วยผมได้” หลังจากผู้เขียนคุยกับอ.ถ่อโซเสร็จแล้ว ได้ให้กำลังใจ กับป่อแหล่เล็กน้อย จากนั้นอ.ถ่อโซ บอกกับผู้เขียนว่าป่อแหล่มีกำลังใจมากขึ้น หลังจากนั้นสิ่งที่ป่อแหล่ได้ยินคือ “เดี๋ยวนี้ป่อแหล่สวมเสื้อผ้าของพระเจ้าแล้ว เราไม่สามารถจัดการกับเขาได้อีก เขาพกพาพระคำของพระเจ้า เราไม่สามารถเอาชนะเขาได้” วิญญาณทั้งหลายชักชวนกันกลับ หลังจากที่ป่อแหล่อ่านพระคำ ของพระเจ้าและมีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น เขาจึงอนุญาติให้อ.ถ่อโซ อยู่ห่างจากตัวเขาได้ |
After reading the Bible Paw Lae said that Jesus allowed people who were against Him, and when people came back to Him He welcomed all of them. Paw Lae said if you go to call your friends again, please say thanks to them for their prayers and tell them I am healed because of the love of God. |
|
หลังจากการอ่านพระคัมภีร์ ป่อแหล่บอกว่า พระเยซูอนุญาตให้มนุษย์ต่อต้านพระองค์ แต่เมื่อมนุษย์กลับมาหาพระองค์ พระ องค์ยินดีต้อนรับทุกคน ป่อแหล่บอกอ.ถ่อโซ ว่าถ้าคุณไปโทรหาเพื่อนของคุณอีก ช่วยขอบคุณเขาสำหรับคำอธิฐานของเขา และบอกเพื่อนของคุณว่าผมหายแล้ว เพราะความรักของพระเจ้า |
Now Paw Lae testifies that he has a new life in God. He will reflect these changes by accepting baptism, and he will encourage his two children to get baptized. He intends to be baptized at the Maw Kler Kee Coffee Hostel. |
|
เดี๋ยวนี้ป่อแหล่เป็นพยานว่า เขามีชีวิตใหม่ในพระเจ้าแ้ล้ว เขาจะขอเป็นพยานความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ด้วยการรับบัพติสมา และเขาจะหนุนใจลูกสองคนของเขา ให้ัรับบัพติสมาด้วย ป่อแหล่ตั้งใจไว้ว่าจะรับบัพติสมาที่หอพักกาแฟมอเคล่อคี |